Scope ของงาน : งานออกแบบสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายใน
เจ้าของบ้าน : วินิตา เลขะวณิช
สถานที่ตั้ง : ซอยเอกมัย 28
ประเภทอาคาร : บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
ประโยชน์ใช้สอย : พักอาศัย และ สำนักงาน/ สตูดิโอ
สถาปนิก : บริษัท อาคิสมิธ จำกัด/ สุคนธ์ทิพย์ เสงี่ยมวงศ์
Email : archi.smith@yahoo.com
Tel No. : 08-6551-9191
เครดิตภาพถ่าย : เกตน์สิรี วงศ์วาร
ที่มาและแนวความคิดในการออกแบบ
เริ่มต้นจากเจ้าของบ้านต้องการปรับปรุงบ้านพักอาศัยชั้นเดียวอายุหลายสิบปีตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่า ให้กลายเป็นที่พักอาศัยและสำนักงาน โดยต้องการให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันและมีความโปร่งโล่ง โดยในบริเวณที่ดินเดียวกันยังมีบ้านที่ปัจจุบันครอบครัวใช้ในการอยู่อาศัย สถาปนิกจึงเสนอให้รื้อถอนอาคารทั้งหมดโดยเหลือเพียงโครงสร้างพื้นและฐานรากเดิม แล้วทำการออกแบบสถาปัตยกรรมขึ้นมาใหม่บนกรอบของอาคารเดิมโดยทำเป็นอาคารสูง 2 ชั้น โดยมีส่วนยื่นอาคารออกนอกแนวเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และที่สำคัญเก็บต้นไม้ทุกต้นรอบๆ อาคารไว้ตามเดิม โครงสร้างใหม่ใช้เป็นโครงสร้างเหล็กทั้งหมดเพื่อลดน้ำหนักอาคารที่ถ่ายลงไปยังพื้นและฐานรากซึ่งมีอายุมากแล้ว การแบ่งพื้นที่ใช้สอยของอาคารถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนพักอาศัยและส่วนสำนักงาน ส่วนพักอาศัยจัดอยู่ด้านหลังของตัวบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีทางเข้า-ออกเชื่อมต่อกับบ้านอีกหลัง ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งมองออกไปเห็นสวนกลางที่ดินและสระว่ายน้ำหลังบ้าน พื้นที่ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ โดยตำแหน่งหน้าต่างห้องนอนเปิดสู่สวนกลางที่ดินและอยู่ตรงกับยอดต้นไม้พอดี ส่วนสำนักงานหรือสตูดิโอ ซึ่งเจ้าของต้องการทำเป็นสตูดิโอสำหรับธุรกิจออกแบบเสื้อผ้าถูกจัดวางอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีทางเข้าออกและที่จอดรถแยกต่างหากเพื่อรองรับการเข้าถึงของบุคคลภายนอก ประกอบด้วยพื้นที่สตูดิโอ ส่วนทำงาน Pantry และห้องน้ำ
สไตล์ของบ้านผสมผสานกันระหว่างแนว Loft และ Luxury ซึ่งเป็นความต้องการของเจ้าของบ้าน เนื่องจากเสาเดิมของบ้านกระจายอยู่ทั่วไป ระยะห่างแทบจะไม่เท่ากันเลยและระยะห่างนี้ก็ไม่มากนัก สถาปนิกจึงจัดให้ส่วนพักอาศัยชั้น 1 เป็นลักษณะ open plan เพื่อเพิ่มความโปร่งให้กับบ้าน และตอนสนองการใช้งานพร้อมกันทุกๆ พื้นที่ยามที่เจ้าของมีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนหรือจัดงานเลี้ยง วัสดุและโทนสีเน้นสีเทา น้ำตาล ส่วนห้องนอนที่อยู่ชั้น 2 เน้นโทนสีเทาเป็นหลัก ส่วนสตูดิโอเป็นโถงโปร่งสูง 2 ชั้นกระจกบานใหญ่เปิดมุมมองสู่สวนกลางที่ดิน เน้นโทนสีเทา ดำเป็นหลัก ทั้งนี้ส่วนอยู่อาศัยให้บรรยากาศที่อบอุ่นของบ้าน แต่ยังคงความเท่และหรูหรา ของความเป็น Loft และ Luxury จึงเห็นได้ว่า ลักษณะของอาคาร ที่ว่าง วัสดุ เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่จัดวางอยู่ข้างๆ กันมีความ Contrast กันอย่างชัดเจนแต่อยู่ร่วมกันได้ด้วยจุดเชื่อมโยงอะไรบางอย่าง การออกแบบสถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมภายในไปพร้อมๆ กันจึงทำให้งานทั้งสองส่วนผสานกันอย่างลงตัว ทั้งนี้ตั้งแต่สถาปนิกเริ่มต้นออกแบบจนถึงการก่อสร้าง เจ้าของบ้านได้มีส่วนร่วมในทุกๆรายละเอียด ทำให้สถาปนิกได้เรียนรู้ตัวตนของเจ้าของบ้านและสร้างสรรค์งานร่วมกัน จนแล้วเสร็จออกมาตรงความต้องการและสะท้อนถึงตัวตนของเจ้าของบ้านได้มากที่สุด
The owner would like to revamp her grandparents’ few decades old, single-storey dwelling into her own living spaces and studio. The requirements were to be spacious with a contemporary look and must be able to connect to the other house within the same compound where the rest of her family lives. However, the requirements did not match the existing footprint of the old house so there was a need to expand up to two storeys. The design team proposed to demolish the whole house keeping only the flooring structure and foundation and rebuilt with steel works to reduce dead loads imposing onto the old underground structure. Functionally, the new house is divided into two zones i.e. living and office spaces whereby the residential components, namely living, dining and kitchen on the first floor and master bedroom on the second floor, are tucked at the back for better privacy and connection to the other house. The studio takes up the front part of the house for the ease of access to the outside.
Since the position and span of the old columns were not in a regular manner, the first floor is designed with open plan concept to keep it as spacious as possible, also perfectly fits for a house party. The studio part with its double-volume space is equipped with large glass openings maximizing the view to the central landscaped courtyard. The decorative approach of the interior is what we would like to call a ‘Loftuary’, a marriage of ‘Loft’ and ‘Luxury’ for which both styles are part of the owner’s wish list. The residential part features a warm colour palette and luxury choices of furniture and accessories with a slight touch of lofty look where appropriate. The studio, though not mistakenly for anything else other than loft, also has a small percentage of luxury in its aesthetical composition. Both styles, howbeit very distinctive in nature, can be brought together in harmony through countless attentive collaborations with the owner throughout the whole design and construction period. The architect’s full control of architectural and interior design and the owner’s hands-on involvement results in a comprehensive overall design that truly reflects the character of the owner, ‘feminine’ but ‘tough’, hence ‘luxury’ and ‘loft’.
