ลำดับแรกๆก่อนการปลูกสร้างบ้านสักหลังคือการออกแบบผังบ้าน ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวเกิดจากการกลั้นกรองระหว่างนักออกแบบและที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ อย่างไรก็ตามเมื่อได้ผังบ้านสิ่งที่ต้องติดตามและคอยกำกับคือการปลูกสร้างจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะพบว่าหลายครั้งเกิดประสบปัญหาการปลูกสร้างบ้านไม่ตรงตามผังบ้านที่กำหนด
ซึ่งผลกระทบอันเกิดจากการปลูกสร้างและออกแบบผังบ้านที่ผิดหรือไม่ตรงความต้องการส่งผลเสียต่อการอยู่อาศัยโดยตรง หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น งบประมาณที่บานปลาย โครงสร้างบ้านที่ผิดแปลนทำให้สิ้นเปลืองต่อการรื้อถอน ตัวบ้านเกิดความไม่แข็งแรง อายุการใช้งานของบ้านที่ลดลง ระยะเวลาในการปลูกสร้างที่ยาวนานยิ่งเพิ่มค่าแรงที่มากขึ้น ตลอดจนความวุ่นวายและสับสนในมิติอื่นๆอันส่งผลต่อการเข้าอยู่บ้าน
ฉะนั้นในวันนี้ Homify ขอเป็นส่วนเติมเต็มในการให้คำแนะนำเพื่อป้องกันการผิดพลาดเกี่ยวกับผังบ้านและก่อนการปลูกสร้างบ้าน เพื่อให้ที่อยู่อาศัยของทุกคนดำเนินการอย่างรอบคอบ และสร้างหน้าที่ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยได้รู้ว่าควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อต้องการสร้างบ้านสักหลัง
ก่อนทำการวางผังบ้านเราในฐานะผู้อยู่อาศัยต้องเริ่มสำรวจความต้องการสำหรับการอยู่อาศัยของตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่ จำนวนสมาชิกของครอบครัว งบประมาณ สไตล์การตกแต่ง ขนาดของบ้าน และทำเลที่ตั้ง เพื่อให้การออกแบบผังบ้านเกิดความสมดุลและสะดวกสบาย โดยเฉพาะการกำหนดห้องนอน ห้องน้ำ โรงจอดรถ ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่แข็งแรง ทนทาน สอดรับกับสภาพอากาศของทำเลนั้นๆได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดีต้องประเมินล่วงหน้าสำหรับการขยายตัวของครอบครัวด้วย เพราะถ้าหากไม่ได้คิดในมุมนี้ อายุการใช้งานของบ้านในอนาคตเมื่อเกิดความแออัดอาจทำให้บ้านเสื่อมโทรมไว
ดังนั้นหลักพื้นฐานในการสร้างบ้านและกำหนดผังบ้านคือการตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อทำให้บ้านและที่อยู่อาศัยอยู่กับเราไปนานๆ บนกรอบพื้นฐานความคุ้มค่า เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าบ้านหนึ่งหลังใช้เงินสร้างที่สูงขึ้นทุกวัน
เมื่อทราบความต้องการว่าจะปลูกสร้างแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านชั้นเดียว หรือบ้านกึ่งอาคารพาณิชย์ ทุกคนสามารถเริ่มร่างแปลนบ้านได้ด้วยการปรึกษาหรือว่าจ้างสถาปนิกและนักออกแบบ โดยรายละเอียดของแปลนบ้านจะฉายภาพมุมห้องต่างๆภายใน พื้นที่การใช้สอยทั้งความกว้าง ความยาว รวมทั้งพื้นที่ส่วนนอก โดยขั้นตอนนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถความเห็นหรือความต้องการของตนใส่ลงไปได้อย่างเต็มที่ทั้งนี้เมื่อได้ตรงตามความต้องการยังทำให้ทุกคนสามารถไปขออนุญาติกรมที่ดินในการปลูกสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป
ผู้รับเหมาหรือบริษัทรับสร้างบ้านในประเทศไทยมีให้บริการจากทุกภูมิภาค โดยเราสามารถตกลงราคาทั้งค่าแรงงาน ค่าวัสดุ ชี้แจงความต้องการของแปลนบ้าน รวมทั้งเลือกวัสดุก่อสร้างและการตกแต่งภายในแบบบิวท์อิน ซึ่งขั้นตอนนี้ควรคุยรายละเอียดต่างๆให้เกิดความลงตัวและเข้าใจตรงกัน เพราะถ้าหากสื่อสารผิดพลาดอาจทำให้บ้านผิดแปลนไปได้
เพื่อให้การอยู่อาศัยเกิดความมั่นคงและปลอดภัยมากที่สุด ควรเลือกใช้วิธีการลงเสาเข็ม เพราะขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยทำให้ฐานรากของบ้านเกิดความแข็งแรง สามารถยึดคาน เสา ไว้ด้วยกันได้อย่างแน่นหนา ส่งผลให้การปลูกสร้างส่วนอื่นๆของบ้่นเป็นไปได้อย่างราบรื่นและไม่ผิดแปลน
อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กันในการปลูกสร้างตามแบบแปลนบ้านคือการเลือกวัสดุก่อสร้างด้วยตัวเองผ่านการแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญหรือแม้กระทั่งลงไปดูเอง เพราะวัสดุก่อสร้างสำคัญอย่างมากในการปลูกสร้างบ้าน เพราะถ้าหากเราเลือกวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพน้อยอาจทำให้บ้านชำรุดบ่อยครั้งหรือมีอายุการใช้งานที่ไม่นาน เปลืองงบประมาณในการซ่อมแซมอยู่เสมอ ดังนั้นไม่ควรตัดต้นทุนการสร้างบ้านด้วยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพไม่ดี
ทั้งนี้วัสดุก่อสร้างยุคใหม่ยังมาพร้อมกับความสะดวกสบายที่ตัดเป็นชิ้นๆในขนาดที่เหมาะแก่การก่อสร้าง รวมทั้งความสวยงาม อาทิ การเคลือบสีมาจากโรงงาน
พื้นผิวภายในบ้านถือเป็นอีกไฮไลท์ที่มักเกิดความผิดพลาดในการปลูกสร้างบ้านตามผังบ้าน เพราะนอกจากเฉดสี ระยะการปู และเนื้อของพื้นผิวที่ผู้อยู่อาศัยต้องใส่ใจเลือกหรือทำความเข้าใจให้ตรงกับช่างปูพื้น ความต้องการด้านการใช้งานแต่ละมุมห้องยังต่างกัน ออกไป อาทิ ห้องน้ำได้มีการแบ่งโซนเปียก-แห้ง ทำให้วัสดุปูพื้นที่นำมาใช้ก็แตกต่างกันออกไป หรือจะเป็นพื้นผิวเคาน์เตอร์ครัวและพื้นผิวทำอาหารมุมทั้งสองแม้ออกแบบในชิ้นเดียวแต่พื้นผิวมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ทั้งโชว์ความสวยงามและการทำอาหาร เป็นต้น
ดังนั้นการเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับมุมห้องต่างๆ ช่วยทำให้การปลูกสร้างบ้านตามแบบร่างบ้านเกิดความสมบูรณ์ พร้อมส่งให้ตรวจทันที
ไม่ว่าบ้านจะมีขนาดใหญ่หรือกว้างมากเท่าใด แต่การไม่หลงลืมหรือใส่ใจการสร้างพื้นที่สีเขียวลงไปในผังบ้าน นอกจากเพิ่มสีสันที่สดใส ยังเพิ่มกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะความเย็นสบาย ให้ร่มเงาและโอโซนที่บริสุทธิ์สำหรับการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้นพื้นที่สีเขียวยังช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของโครงสร้างบ้านได้อย่างนุ่มลึก
และอีกหนึ่งลูกเล่นที่ทุกคนสามารถเสริมเข้าไปให้กับภายในบ้านให้เกิดความสวยงาม คือ การนำเอากระจกใสมาติดตั้งบริเวณผนัง ซึ่งประโยชน์ของกระจกนั้นนอกจากให้ความส่องสว่างสำหรับการเปิดรับแสงสว่างจากภายนอก ยังดูแข็งแรงทนทาน ที่สำคัญสามารถรับชมวิวทิวทัศน์ส่วนนอกของบ้านได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่เพียงเท่านั้นกระจกใสยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านเกิดความปลอดโปร่ง ถ่ายเท ถือเป็นหนึ่งไอเดียที่คุณๆเสริมเข้าไปไว้ในผังบ้านได้อย่างสร้างสรรค์ นอกจากไม่ยุ่งยาก ราคาไม่สูง และยังเป็นการตกแต่งที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเพราะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านได้ดีอีกด้วย
เมื่อบ้านและที่อยู่อาศัยเริ่มสร้างเสร็จ เราทุกคนสามารถเข้าเยี่ยมชมตามมุมห้องต่างๆได้อย่างอิสระ เพื่อตรวจความต้องการเบื้องต้นที่ได้แจ้งไว้กับช่างผู้เชี่ยวชาญว่าได้ดำเนินการหรือไม่ อาทิ พื้นผิวของผนัง โทนสี ประตูและหน้าต่าง รวมทั้งความกว้าง ยาว สำหรับการบิวท์อิน ซึ่งขั้นตอนนี้ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจที่ดีต่อการอยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสม
เมื่อปลูกสร้างเสร็จ ก่อนการรับส่งงาน เราสามารถนำเอาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจบ้านอีกครั้งเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย โดยเฉพาะมิติของความปลอดภัย ทั้งพื้นผิวมีรอยร้าวหรือไม่ ระบบประปา ไฟฟ้า สามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบายไหม หรือจะเป็นระบบท่อ รางน้ำฝน การกำจัดขยะ โทนสี การเปิด-ปิด ประตูและหน้าต่าง เรียกได้ว่าต้องดูและสอดส่องอย่างละเอียดเพราะถ้าหากส่งงานแล้วการซ่อมแซมหรือแก้ไขอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และนี่คือข้อคิดน่ารู้สำหรับการปลูกสร้างบ้านตามผังบ้านที่เราสามารถเข้าไปเติมเต็ม ดูแล และจัดการได้อย่างใกล้ชิดบนกรอบพื้นฐานความต้องการที่ช่างผู้เชี่ยวชาญได้ออกแบบและตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม