เมื่อพูดถึงลักษณะของบ้านสำเร็จรูปแล้ว แวบแรกหลายคนอาจจะนึกถึงแบบบ้านที่ดูเรียบๆไม่มีอะไรโดดเด่นน่าสนใจนัก แต่วันนี้ Homify จะพาไปชม The Tree House บ้านสำเร็จรูปทรงเหลี่ยมขนาดกะทัดรัด 44 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบโดยทีมสถาปนิก Jular Madeiras ซึ่งถึงแม้จะเป็นบ้านสำเร็จรูปซึ่งสามารถก่อสร้างได้ง่าย แต่ความโดดเด่นคือการออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบ และการออกแบบพื้นที่ภายในซึ่งมีไฮไลท์พิเศษอันเป็นเอกลักษณ์
ในภาพรวมของบ้านสำเร็จรูปหลังนี้ จะเห็นว่าสถาปนิกเลือกใช้รูปทรงและโทนสีซึ่งแตกต่างและโดดเด่นไปจากสภาพแวดล้อม แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อต้องการที่จะสร้างความขัดแย้ง หากแต่เป็นการสร้างความโดดเด่นและชัดเจนของสถาปัตยกรรม ทั้งนี้รูปทรงเหลี่ยมของตัวบ้านกลับเป็นรูปทรงที่ผู้คนคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่าย โทนสีขาวเองก็เป็นโทนสีที่สื่อถึงความสะอาดและสงบ ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวบ้านเมื่อมองจากภายนอกกลับไม่รู้สึกว่าทำลายหรือขัดแย้งกับบริบทมากมายนัก
ที่ตั้งของตัวบ้านตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ที่ซึ่งมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์และสวยงาม นอกจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติแล้วยังมีอาคารเก่าตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีความสวยงามในแบบของตนเอง จึงเป็นความท้าทายและความน่าสนใจ ให้สถาปนิกออกแบบรูปทรงและลักษณะอื่นๆของอาคารให้สัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่ในพื้นที่เดิมอีกด้วย ซึ่งผลที่ออกมาคือความสอดคล้องกันของอาคารเก่าและอาคารใหม่อย่างที่เห็นในภาพนี้
บริเวณหน้าบ้านถูกออกแบบเป็นทางลาดซึ่งจะนำผู้มาถึงไปยังบริเวณชาน โดยชานหน้าประตูทางเข้านี้จะหันหน้าออกไปยังแม่น้ำ เพื่อรับมุมมองธรรมชาติ เจ้าบ้านสามารถออกมานั่งเล่นจิบน้ำชาในยามเย็น หรือพูดคุยกับผู้มาเยือนในบรรยากาศสบายๆ ประตูทางเข้าบ้านเองก็ถูกออกแบบให้เป็นประตูกระจกขนาดใหญ่เพื่อรับมุมมองและแสงธรรมชาติได้ด้วย
ลองมองภาพนี้แล้วจินตนาการถึงความรู้สึกเมื่อกำลังเดินขึ้นไปยังบนบ้าน นี่คือความตั้งใจของสถาปนิกที่ต้องการให้ผู้มาถึงได้ใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการเดินขึ้นทางลาดไป เพื่อรับรู้และเสพความสวยงามจากทัศนียภาพและบรรยากาศอันสวยงามนี้
ด้วยความที่ต้องการพื้นที่ภายในบ้านถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การออกแบบพื้นที่แบบเรียบง่ายไม่ต้องการการปรุงแต่งมากมายจึงถูกนำมาใช้ พื้นที่ส่วนหน้าบ้านเมื่อผ่านประตูเข้ามา ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆไว้ชมวิวนอกบ้านได้ โดยการใช้เป็นโซฟาแบบบิลท์อินติดกับผนัง ทั้งนี้องค์ประกอบอื่นๆทั้งพื้นและผนังก็ต้องการความสะอาดตา อาจไม่ต้องการการประดับตกแต่งอะไรมากนัก เว้นแต่รูปภาพหรืองานศิลปะสักชิ้นเพื่อช่วยให้พื้นที่มีจุดสนใจและเบรคความขาวโพลนของผนัง
มุมมองจากธรรมชาติได้ถูกให้ความสำคัญผ่านการออกแบบช่องเปิด ทั้งช่องเปิดบริเวณทางเข้าด้วยกรอบบานกระจกขนาดใหญ่ เผยให้เห็นเส้นสายจากชานหน้าบ้านที่ต่อเนื่องไปตามเส้นสายของแม่น้ำ แลดูเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ส่วนช่องเปิดบริเวณครัวซึ่งเป็นช่องเปิดแนวยาวไปตามพื้นที่เคาน์เตอร์บาร์ ก็ให้มุมมองที่ดี ทั้งยังให้แสงสว่างแก่พื้นที่ภายในบ้านอีกด้วย
ไฮไลท์สำคัญของบ้านคือระเบียงนั่งเล่นซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน โดยเป็นพื้นที่เล็กๆซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นใหญ่ภายใน การออกแบบพื้นที่เน้นความเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้จึงเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบนั่งพื้นซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ ในขณะที่ยังต้องการการรับบรรยากาศภายนอกด้วย การออกแบบพื้นที่จึงไม่ทำการปิดล้อมมากนัก ผนังด้านหนึ่งถูกออกแบบให้เป็นซี่ๆซึ่งมองเห็นธรรมชาติภายนอกและรับลมธรรมชาติได้แบบชิลๆ
บริเวณหลังบ้านเมื่อมองจากภายนอกจะเห็นลักษณะผนังบริเวณชานที่อยู่ภายในบ้าน ที่มีการออกแบบให้ทั้งปกปิดและเปิดเผย โดยลักษณะซี่ของไม้ที่ถูกนำมาประกอบเป็นผนังถูกตีเว้นระยะระหว่างกัน เพื่อให้พื้นที่สามารถรับลมรับแสงและไม่อับทึบจนเกินไป ทั้งยังเป็นการเย้ายวนให้ผู้พบเห็นเกิดความสนใจและอยากที่จะเข้าไปใช้งานพื้นที่อีกด้วย
ส่งท้ายด้วยบรรยากาศยามค่ำคืนจากระเบียงบริเวณหน้าบ้านอีกครั้ง การออกแบบนอกจากจะเป็นชานและมีที่นั่งสำหรับเปิดรับบรรยากาศริมแม่น้ำแล้ว การเลือกใช้วัสดุและโทนสีก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้พื้นที่แลดูมีความอบอุ่นและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน การเลือกใช้พื้นไม้สี้น้ำตาลอ่อนและผนังสีขาว เมื่อตัดกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูเป็นที่ที่ให้ความอบอุ่นและโรแมนติคแก่ผู้อยู่อาศัย ซึ่งถึงแม้จะเป็นบ้านสำเร็จรูปหลังเล็กก็ตาม แต่หากได้รับการออกแบบที่ดี ดึงเอาศักยภาพของธรรมชาติโดยรอบมาใช้และส่งเสริมให้สวยงามยิ่งขึ้น ก็เป็นบ้านที่สวยงามและน่าอยู่ไม่แพ้บ้านหรูๆเลยแม้แต่น้อย